อาจารย์วิศวฯไฟฟ้า มธ.แนะลดตัวกระตุ้น 3 ปัจจัยเกิดไฟลุกไหม้ในรถยนต์

อาจารย์วิศวกรรมไฟฟ้า ธรรมศาสตร์ เตือน 3 ปัจจัย ทำให้ไฟลุกไหม้ในรถยนต์ หากลืมโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้รถยนต์อาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมา ผศ.นพพร ลีปรีชานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงกรณีเหตุไฟไหม้รถยนต์ใน จ.นครราชสีมา ที่เกิดจากผู้ขับขี่ลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในรถยนต์แล้วเกิดระเบิดทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ว่า กรณีการเกิดไฟลุกไหม้ต้องประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือเชื้อเพลิง ความร้อน และออกซิเจน ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งไป ไฟจะไม่สามารถติดได้ ดังนั้นส่วนต่างๆ ที่ประกอบเป็นโทรศัพท์มือถือกับปัจจัยภายในรถก็มีโอกาสทำให้เกิดไฟไหม้ได้ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการนำวัสดุใดๆ ที่สามารถทำปฏิกริยาทางเคมี หรือการสันดาปขึ้นเองได้ เช่น โทรศัพท์มือถือไว้ในรถยนต์ หากจำเป็นจริงๆ ให้ลดตัวกระตุ้นที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น การไม่วางโทรศัพท์ในลักษณะเผชิญแสงแดดโดยตรง การติดฟิล์มกันแสงแดด การไม่จอดรถกลางแดด หรือการลดกระจกเพื่อระบายความดัน และความร้อนภายในรถ และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือการเลือกอุปกรณ์ และโทรศัพท์มือถือที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้อัตราการไหลเวียนของกระแสไฟมีความเสถียร ก็จะช่วยลดปัจจัยการเกิดไฟไหม้ได้ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา ไฟลุกไหม้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กว-7820 นครราชสีมา ของนายสุพี ชัยชนะ อายุ 54 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนดอนสามัคคี ต.เมืองโดน อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ขณะจอดไว้ในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา โดยนายสุพีลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในรถขณะเดินทางมาร่วมพิธีเปิดอาคารสำนักงานหลักใหม่ คาดว่าความร้อนในตอนกลางวันทำให้แบตเตอรี เกิดระเบิดขึ้นทำให้ไฟไหม้รถดังกล่าว